วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พี่จุกวัดสวนหลวง เทพเจ้าแห่งโชคลาภ








เขียน-ถ่ายภาพ โดย ศรีพราหมณ์



      เลื่องลือระบือไกลไปถึงต่างประเทศ ในแต่ละปี จะมีผู้ประกอบการที่เป็นคนไทยในต่างแดน อาทิ  อเมริกา ฝรั่งเศส ฮอทเตเรีย สิงคโปร์ ใต้หวัน มาเลเซีย ต่างก็เดินทางไปเช่าบูชากุมารเทพ ที่ชื่อว่า พี่จุกสวนหลวง ณ ที่วัดสวนหลวง  หมู่ 1 อ.อัมพวา จ.สมุทธสงคราม วัดแห่งนี้มีหลักฐานปรากฏทางโบราณคดี และขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรณ์เอาไว้ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2235 ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ดั่งปรากฏหลักฐานหลายอย่างอันเป็นซากปรักพังเจดีย์ วิหารเก่าแก่ จึงทำให้สามารถประเมินอายุได้ไม่ต่ำกว่า 300 ปี อดีตเจ้าอาวาสที่คงแก่วิชาอาคมเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม คือหลวงพ่อปึก ซึ่งถือได้ว่า เป็นพระเกจิที่ไม่ธรรมดารูปหนึ่ง และท่านก็เป็นผู้พบไม้ตะเคียนเก่าแกะเป็นรูปกุมารพี่จุก ลอยน้ำมาติดอยู่ที่ท่าน้ำหน้าวัด จึงถือได้ว่า พี่จุกคือกุมารคู่บารมีของท่าน  ณ ตอนนั้น พี่จุกมักสื่อสารกับหลวงพ่อปึก ในขณะที่หลวงพ่อเจริญฌานสมาบัติ  พี่จุกจะเล่าความเป็นมาของตนเอง ที่เกิดในสมัยแผ่นกรุงศรีอยุธยา รับใช้อยู่พระราชนักฝ่ายใน ตอนนี้มีชีวิตได้สั่งสมบุญบารมีด้วยการบริจาคทาน ทำบุญกับพระอริยะเจ้าใสมัยนั้น ด้วยอดีตกรรม จึงเสียชีวิตในช่วงที่กรุงศรีอยุธยาแตกถูกข้าศึกพม่าโจมตี ก่อนเสียชีวิต จะอธิษฐานไว้เสมอว่า เมื่อแตกดับ จะขอสร้างบุญบารมีด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังกรุงแตก ประชาชน ถูกแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า เป็นหมู่บ้าน บางหมู่บ้านก็โดนพม่าฆ่าตายทั้งหมูบ้าน บางหมู่ก็รอดพ้น พอมาถึงยุคสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ดวงวิญญาณของพี่จุกก็โคจรไปอยู่กับครูบาอาจารย์หลายต่อหลายวัด จนเวลาผ่านพ้นไปร้อยกว่าปี พี่จุกสามารถไปสื่อสารกับผู้แก่กล้าวิขาอาคมชาวบ้าน แถว จันทรบุรี  เขาได้นำไม้ตะเคียนเก่าตายพายมามาแกะสลักเป็นรูปพี่จุก แล้วเชิญวิญาณของพี่จุกเข้ามาสถิตรในรูปไม้แกะสลัก จนกระกาลเวลาล่วงเลยมาหลายยุคสมัยไม้แกะสลักรูปพี่จุกก็พลัดหลงลอยน้ำมาติดที่ท่าน้ำวัดสวดร้อย สมัยที่หลวงพ่อปึกยังดำรงค์สังขาร ในยุคนั้น ชาวบ้านย่านตำบลสมัยนั้น จะกลัวพี่จุกกันมาก เพราะความเฮี้ยน ใครผ่านไปผ่านมา พี่จุกไปปรากฏตัวให้เห็นเป็นที่สนุกสนาน หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ เป็นที่เข็ดขยาด ถ้าใกล้เวลาพลบค่ำแล้ว ไม่มีใครากล้าเดินเฉียดวัดสวนหลวงเลย หลังจากหลวงพ่อปึกละสังขารแล้ว พระอาจารย์ใหม่หรือท่านพระครูวิกรมปัญญาภรณ์ ท่านเป็นศิษย์เอกอดีตท่านเจ้าอาวาส จึงได้รับช่วงต่อการก่อสร้างวัดเก่าแก่นี้โดยเริ่มจากเงิน ศูนย์บาท หลวงพ่อใหม่ พยายามสื่อสารกับพี่จุกจนสำเร็จ ขอให้พี่จุกช่วยสร่างวัด ศาลา โบสถ์ วิหาร เอย ซึ่งสำเร็จลงได้พระบารมีพี่จุกถ้าคิดเป็นจำนวนเงินก็ร้อยกว่าล้านแล้ว





                  เงินมาจากไหน 1. คือมีผู้มากราบไหว้พี่จุก 2.วัตถุมงคลรูปองค์พี่จุกขนาดต่างๆ ซึ่งสร้างมากี่รุ่นก็หมด
                    คนที่มากราบไหว้พี่จุก ส่วนใหญ่จึงเป็นคนที่ทำการค้าการขาย เล่นหุ้น เล่นหวย ถึงขาดเคยดลบันดาลให้ผู้ที่มากราบไหว้ถูกหวย 20 ล้าน แล้วเขาก็นำเงินมาถวายพี่จุกหลายล้าน บางท่านประสบความสำเร็จในการขอให้ทำมาค้าขาย ก้ได้สมปรารถนาภายใน 3 เดือน ที่น่าทึ่งที่สุด คือมีนักธุรกิจที่หมดตัวแล้วจากพิษเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ปรากฏว่า มากราบไหว้บนบาลพี่จุก หลังจากนั้น เขาหายไปเลยนาน 5 เดือน กลับมาอีกทีขับเบ็นซ์ นำเงินกลับมาถวายที่วัดสวนหลวง หลายล้าน
นี่คือประสบการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น พี่จุกจะให้แต่โชคลาภ ใครที่มีติดลบ้านบูชาไว้ ก็เหมือนพี่เทพแห่งโภคทรัพย์ ขอเพียงศรัทธาและตั้งมั่น พี่จุกจะช่วยเหลือทุกคน ข้าพเจ้าก็เป็นอีกผู้หนึ่ง ศรัทธาและรักพี่จุกมาก จึงมีโอกาสเดินทางไปบูชาองค์จำลองพี่จุกและได้ร่วมทำบุญกับวัดอย่างสม่ำเสมอ ใครที่กำลังติดขัดหรือพบเจออึปสรรค์ อยากให้มีโอกาสไปสักครั้ง แล้วชีวิตท่านจะเปลี่ยน ขอเพียงศรัทธาด้วยหัวใจจริงๆ

ข้าพเจ้าไปรับองค์ใหญ่มาบูชา

มีประชาชนเดินทางไปรับพี่จุกมาบูชา

 

 

หลังรับมาแล้วก็มาอยู่กับน้องๆ ในชมรมอนุรักษ์พ่อแก่



 
 


วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศาลเจ้าจีน เจ้าพ่อเห้งเจีย เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย





เขียน-ถ่ายภาพ โดย..ศรีพราหมณ์


             

“ไต้เสี่ยฮุกโจ้ว” คำเรียกองค์เจ้าพ่อเห้งเจียไม้แกะองค์เก่าแก่องค์นี้ ซึ่งหมายถึง การสำเร็จอรหันต์ของท่าน ปางเก่าแก่ที่อยู่ในศาลเจ้าจีนไม่ใหญ่นักในย่านเยาวราช ใกล้ๆ กับสามแยก หมอมี คือปางนั่งดอกบัว ชาวจีนจึงเรียกว่า “ไต้เสี่ยฮุกโจ้ว” 

                   แต่เดิมศาลเจ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตวัดสามจีนซึ่งก็คือวัดไตรมิตรในปัจจุบัน อยู่คู่กันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2  ประมาณร้อยกว่าปี  สมัยก่อนมีการอัญเชิญรูปไม้แกะสลักเจ้าพ่อเห้งเจียปางนั่งดอกบัวมาทางเรือสำเภาจีน ล่องมาทางแม่น้ำนครชัยศรี จากนั้นก็มาขึ้นท่าน้ำวัด นางสาว แล้วมีการอัญเชิญมาประดิษฐานที่ ศาลเจ้าจีน ในเขตวัดไตรมิตรซึ่งอยู่ด้านหน้าวัด ส่วนด้านหลังวัด จะเป็นศาลเจ้าโป๊ยเซียน แต่ปัจจุบัน ทางวัดขอพื้นที่คืน ทำให้ศาลเจ้าจีน โป๊ยเซียนไปอยู่ที่ซอยอ่อนนุช ส่วนศาลเจ้าพ่อเห้งเจียย้ายมาอยู่ตรงสามแยก ลักษณะเป็นตึกแถวโบราณเก่าแก่ ซึ่งประชาชนชาวจีนย่านเยาวราชยังให้ให้ความเคารพนับถือ เพราะไม่ว่า ใครจะไปบนบานศาลกล่าวด้วยเรื่องอะไร ล้วนแต่สมปรารถนากันทั้งนั้น ยิ่งคนที่อยากจะเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ เมื่อมาบนบานกับท่านก็เลิกได้จริง ยิ่งถ้าช่วงก่อนหวยออก จะมีคนมาไหว้ขอพรกันเยอะ โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ก็มาสักการะกันไม่ขาดสาย ฉะนั้น ท่านได้ที่สนใจอยากจะไปกราบไหว้ เจ้าพ่อเห้งเจีย สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน นั่งไปสุดทางสถานีหัวลำโพง แล้วไปต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 20 บาท ขอเตือนไม่ควรนำรถส่วนตัวไป เพราะท่านจะไม่มีที่จอดครับ ขอให้โชคดีกันทุกท่าน 
  

รูปจากศาลเจ้าพ่อเห้ยเจีย