วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เปิดความลับ พระพิฆเนศ 51 ตา รวมพลังศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่แห่งสรวงสวรรค์ทุกพระองค์


เขียนโดย อ.ศุภณัฏฐ์ อัฏฐวัฒน์




สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้อ.ศุภณัฏ อัฏฐวัฒน์ นำพระพิฆเนศ 51 ขึ้นทูลเกล้่าถวาย ณ ศาลดุสิตตาลัย พระราชวังสวนจิตรดา เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2552
ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ข้าพเจ้า ได้รับข้อมูลพิเศษจากเพื่อนชาวต่างชาติ ชาวสิงคโปร์ เขามีความศรัทธาในมหาเทพแห่งศาสนาฮินดู เขาได้เดินทางไปที่ประเทศอินเดียตอนใต้ และนำข้อมูลของพระพิคเนศปางพิเศษองค์นี้มาให้ข้าพเจ้าเขียนประวัติความเป็นมา เพื่อลงเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์บ้านเมืองฉบับที่ 1827(16701) ปีที่ 7(37) ประจำวัน เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2551 หลังจากเขียนลงเผยแพร่ไปแล้ว ได้รับความสนใจจากประชาชนแฟนผู้อ่านมากมาย เพื่อนชาวต่างชาติ จึงร่วมมือกับบริษัทเซาท์อีทเอ็มไพซ์โดยคุณอานนท์ แก้วมมโนรมย์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านงานปั้นงานพระพิคเนศ 51 ตา โดยถอดแบบจากงานปั้นของอินเดีย ให้เป็นงานแบบไทย ซึ่งมีทั้งองค์ใหญ่องค์เล็ก ขนาดๆ ต่างจนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่ผู้บูชาพระพิคเนศ ถือเป็นความสำเร็จในการจัดสร้างพระพิคเนศปางดังกล่าว ซึ่งในประเทศอินเดียใต้ ยกย่องให้เป็นปางที่ 33 ส่วนข้าพเจ้าถวายพระนามให้เป็นปางแห่งอำนาจวาสนา เรียกกันสั้นๆ ว่า 51 ตา และเหนืออื่นใด ข้าพเจ้านำรับพระกรุณาโปรดเกล้าให้ นำพระพิคเนศ 51 ตา ขึ้นทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ ณ  ศาลา ดุสิตตาลัย พระราชวังสวนจิตรดา เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2552 ในนามมูลนิธิแสงธรรม ในพระสังฆราชูปถัมภ์นี่คือจุดกำเนิดต่อเนื่องมาถึงเรื่องการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา ของคุณอานนท์ แก้วมโนรมย์ จนถึงปัจจุบัน และชื่อ พิพิธภัณฑ์ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้ตั้งให้ ซึ่งเป็นว่า “ศูนย์รวมพลังแห่งเทพในจักรวาล” แต่น่าเสียดายหลายปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของพระพิคเนศปางนี้เป็นที่รู้จัก แต่ไม่มีใครถ่ายทอดประวัติความเป็นมาได้แท้จริง วันนี้ข้าพเจ้าจึงขอนำประวัติแห่งการกำเนิดของท่านมาลงเผยแพร่ให้อ่านกันรวมถึงพระคาถาที่บูชา



           ผู้ที่เปิดเผยความลับของพระพิฆเนศ  51 ตา  ปางนี้ คืออาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิกชื่อดังของประเทศอินเดีย ตอนใต้ ชื่อว่า .T.Bhasskaradoss  เขามีความเชื่ยวชาญงานศิลปะประติมากรรม โดยเฉพาะงานปั้นเทวรูปของศาสนาฮินดู ถึงขนาดอุทิศตนเองใช้ชีวิตอยู่ในวัดชิตวารารัม (Chidladaram) เพื่อสร้างงานศิลปะในการปั้นเทวะรูป ปางต่างๆ ภายในวัดแห่งนี้ และที่สร้างชื่อเสียงให้กับ  T.Bhasskaradoss  คืองานปั้นรูปพระศิวะ ปาง นาฏราช องค์ใหญ่ที่สุดในอินเดียใต้มาแล้ว เขาเปิดเผยว่า..พระพิฆเนศปาง 51 ตา อุบัติมาตามคำนายของ มหาฤษีซึ่งมีชื่อว่า อากัลป์ติยา เมื่อ 5,100 ปีที่แล้ว  ในคัมภีร์ใบลาน ของวัดชิตวารารัม ได้บันทึกไว้ว่า..พระฤาษีองค์นี้ คืออาจารย์ของ พระแม่อุมาเทวี ได้ทำนายก่อนที่ตนเอง จะละสังขารว่า หลัง 5,100 ปี ไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองจะบังเกิดขึ้นไปทั่วโลก และความเสื่อในจิตใจของมนุษย์ จะทำให้มหาเทพทั้งหลายบนสรวงสวรรค์ ไม่อยากช่วยเหลือเหล่ามวลมนุษย์ บรรดาอสูรทั้งหลาย จะเรืองอำนาจ และนำพาให้เกิดโลกแห่ง กาลกาลียุค พระฤาษีองค์นี้ ได้ทำนายต่อไปอีกว่า โลกนี้จะพ้นภัยพิบัติ ต่อเมื่อพระบรมครูพระพิฆเนศจะทรงพระเมตตา และประทานพรให้ผู้ที่รักพระองค์อยู่รอดปลอดภัย พระองค์จะอวตารมาอุบัติในรูปของกายทิพย์ ในปาง 51 ตา ซึ่งมีชื่อว่า Shakti peeas : ซึ่งแปลว่า บุญบารมีซึ่งมาจาก 51 ตา และถือว่า เป็นปางที่สิ้นสุดและสูงสุดของ องค์พระพิฆเนศ ทุกๆ ปาง จะไม่บังเกิดปางหรืออวตารใดๆ เกิดขึ้นอีกแล้วกับองค์พระพิฆเนศ 


T.Bhasskaradoss ได้บรรจงวาดและร่างแบบของพระพิฆเนศ ปางนี้ ตามความฝันของตน หลังจากที่ได้ไปค้นพบคัมภีร์ใบลานในวัดดังกล่าว จึงพยายามปั้นเป็นรูปทรงผสมผสานศิลปะแบบประยุกต์จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศอินเดีย..แล้วจดทะเบียนเป็นลิขสิทธิ์ไว้กับรัฐบาลของประเทศอินเดีย บ.ทิเบธิยา ได้รับสิทธิ์นำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เนื่องจากรูปแบบของพระพิฆเนศปางนี้ เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาของมหาชนที่นิยมบูชาเทพ เนื่องจาก เป็นพระพิฆเนศที่ รวมพลังแห่งมหาเทพมารดาผู้เป็นใหญ่บนสรวงสวรรค์ถึง 5 องค์ด้วยกัน อาทิ พลังแห่งพระแม่ ทุรคา คือตรีศูลในพระหัตถ์ขาว  พลังแห่งพระแม่คงคา คือหม้อน้ำที่อยู่บนพระเศียร พลังแห่งพระแม่อุมาคือมีดดาบในพระหัตถ์ขวาที่ 2 พลังแห่งพระแม่ลักษมีคือบัลลังก์ดอกบัว พลังแห่งพระแม่ ตีรีปูราซุนบารี คืองูจงอาง 9 ตัว แผ่พังพานเป็นรัศมีบนพระเศียร  และยังมีพลังแห่งเทพบิดา ซึ่งถือเป็นพลังหลักของพระพิฆเนศ ปางนี้โดยเฉพาะ อาทิ  พลังแห่งพระศิวะ คือพระเนตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ทั้ง 51 ดวง พลังแห่งพระนารายณ์ คือกระบอง ในพระหัตถ์ซ้ายที่ 4  ทั้งหมดนี้ คือพลังอำนาจของพระพิฆเนศ 51 ตา ซึ่งถือว่า เป็นพระพิฆเนศปางแรกและปางเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถประทานพรสุดวิเศษแห่ผู้บูชาสักการะบูชาได้แบบครอบจักรวาล โดยเฉพาะพระพรที่ว่าด้วย มหาอำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์ และทรงอิทธิพลเสมอผู้เป็นใหญ่บนสรวงสวรรค์ ส่วน วาสนา คือผู้สำเร็จด้วยธุรกิจการงาน มีคนรักใคร่เมตตา และนำไปสู่ความร่ำรวยในขั้นมหาเศรษฐีทีเดียว  นอกจากนี้ ผู้ที่บูชา จะบังเกิดสัมผัสที่หก เหนือคนสามัญ มีสุขภาพแข็งแรง คุณไสยทั้งปวงไม่กล้ากล้ำกราย ความหายนะทั้งปวง จะกลับกลายสู่ความสุขสถาพรอย่างนิรันดร์ ฉะนั้นจงมั่นสวดพระคาถาบทนี้ไว้ให้ขึ้นใจ เพราะนี่คือพระคาถาที่ถูกคัดลอกมาจากคัมภีร์ใบลานอันเก่าแก่ของวัดชิตาวารารัม
                          โอม  ฮรีม ชรีม ครีม
                            โกลม กำ กานาปาติเย
                             วารานามุคเฮ ซาวาราริชตัน
                              วารายา วารายา โอม สวาฮา


ล่าสุด ทางพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา ได้จัดสร้างพระพิฆเนศขนาดห้อยคอ องค์เล็ก ผู้หญิงใส่ได้ ผู้ชายใส่ดี กำลังเหมาะ ประกอบพิธีบวงสรวง เทวาภิเษกในวัน อาทิตย์ ที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดย อ.ศูภณัฏ อัฏฐวัฒน์เพื่อหารายได้สร้างเทวาลัยที่ วัดพิกุลเงิน โทรศัพท์ ติดต่อได้ที่เบอร์นี้ 082-3333341ได้ที่ อ.ศุภณัฏฐ์ โดยตรง

 
องค์นี้เลี่ยมทองห้าไมค่อน ชุมทองทั้งองค์ แบบนี้พิมพ์นี้มีที่นี่ที่เดียว พระพิฆเนศ 51 ตาขนาดห้อยคอ





 
องค์ใหญ่ เคยจัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิล
องค์แบบดั้งเดิมจากเทวาลัยในประเทศอินเดีย

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2556 เวลา 00:40

    เคยเห็นองค์ที่จัดแสดงทึ่เซ็นทรัลเวิลด์ด้วยค่ะ สวยมาก... ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ดีๆทึ่เกี่ยวกับพระพิฆเนศปางนี้ และ ก็พระคาถาบูชาด้วยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ที่ได้รับค่ะ ใครไม่รู้ก็พึงได้รู้ และเข้าใจในพระพิฆเนศปาง 51 ตา...สาธุ

    ตอบลบ
  3. พึ่งฝันเ็นองค์ท่าน ร่างกายเป็นสีฟ้า เลยลองค้นหาข้อมูล เลยมาเจอ ถ้าจะบูชาองค์ท่านที่เป็นสรฟ้าอยากทราบว่าบูชาได้ที่ไหนครับ

    ตอบลบ
  4. สาธๆๆๆโอมศรัทธาบูชาสาธุ

    ตอบลบ