วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พุทธศาสนาสองนิกาย เถรวาท-มหายาน ต่างมุ่งบูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน





                                    พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมพระพุทธเจ้าที่ยังคงไว้เพื่อให้ชาวพุทธยึดถือและปฏิบัติสืบทอดกันต่อๆมา ยังความสุขสถาพรแก่ผู้ปฏิบัติได้อย่างแท้จริง แม้พระพุทธองค์จะเสด็จเข้าสู่พระปรินิพานไปนานกว่า 2500 ปีล่วงไปแล้วก็ตาม แต่ ธรรมของพระองค์ ยังคงเป็นสัจธรรมที่ไม่เคยดับสลายไปกับกาลเวลา  มีแต่จะเจริญงอกงามเพิ่มพูนด้วยความศรัทธาของชาวพุทธศาสนาก่อให้เกิดการขยายวงกว้างของผู้คนทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์ที่เริ่มหันมานับถือศาสนาพุทธกันอย่างมากมาย นื่คือความมหัศจรรย์ที่เราท่านสัมผัสได้ด้วยรูปธรรม  เหนืออื่นใดนอกจากพระธรรมคำสั่งสอนของพระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังมีสิ่งที่มหัศจรรย์ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย นั่นคือ พระบรมสารีริกธาตุ หรืออิฐธาตุของพระพุทธเจ้า

                                    ย้อนหลังกลับไปสู่พุทธกาล 25,000 ปี หลังจากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จปรินิพพาน  ณ สวนป่าสลวัน บรรดามัลลกษัตริย์ทั้งหลาย ได้ทำการบูชาสัการะพระพุทธสรีระกันอย่างมโหฬารเป็นเวลากว่า 6 วันย 6 คืน และมีการตั้งขบวนแห่อัณเชิญพระบรมศพไปสู่ทิศบูรพา อันเป็นที่ตั้งของ มกุฏพันธนเจดีย์ แล้วรอจนพระอัครสาวกองค์สุดท้ายมาถึงคือพระมหากัสสปเถระ เทพดาจึงพร้อมใจกันร่วมถวายพระเพลิงทิพย์ลุกพวยพุ่งเผาพระพุทธสรีระจนหมดสิ้น แต่ด้วยพระพุทธบารมี ทำให้ยังคงเหลือสิ่งอันเป็นมหัศจรรย์แห่งพระพุทธศาสนาดังนี้


                                 1.พระบรมสารีกธาตุทุกส่วนถูกแบ่งและตวงได้มากถึง 16 ทะนาน โดยพราหมณ์ผู้มีนามว่า โทณะ เป็นผู้จัดสรรปันส่วนให้บรรดากษัตริย์ทั้งหมด 7 เมือง 1. เมืองราชคฤห์ 2. เมืองกบิลพัสดุ์3.เมืองเวสาลี 4.อัลลกัปปะ 5.เมืองรามคาม 6.เมืองปาวา 7.เมืองเวฏฐทีปกะ

                                   2. พระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาและรากขวัญเบื้องขวาขึ้นไปประดิษฐาน ในจุฬามณีเจดีย์ ณ ดาวดึงส์เทวโลก

                                     3.พระเขี้ยวแก้วเบื้องล่างด้านซ้ายลงไปประดาฐาน ณ เมืองพญานาคพิภพ

                                      4.พระเขี้ยวแก้วเบื้องขวา ประดิษฐาน ณ เมืองกาลิงคะ ปัจจุบันประดิษฐานที่ ประเทศศรีลังกา

                                        5.พระรากขวัญและพระอุณหิส ประดิษฐานอยู่ ณ ทุสสเจดีย์ พรหมโลก

                                         6.พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนด้านซ้าย ประดิษฐาน ณ เมืองคันธาระ

                                         7.พระทนต์ทั้ง 36 องค์ และพระโลมา นขา ทั้ง 20 องค์ ได้เสด็จกระจายไปทั่งจักรวาลโยมีเหล่าเทพดาผู้มีบุญเฝ้าดูแลรักษาตลอดกาล



                                        ทั้งหมดนี้คือพุทธอนุสรณ์ที่ พระบรมศาสดาของเราได้เหลือไว้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติบูชา ว่า ธรรมมีอยู่จริง ผู้ปฏิบัติดีแล้ว แม้สรีระก็สะอาดใสดุจแก้วแวววาว

                                          หลังจากได้มีการแบ่งสันปันส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระมหากัสสปะได้เล็งเห็นด้วยอำนาจแห่งญาณบารมีว่า ภายภาคหน้าในยุคหลังพระปรินิพาน จะเกิดกลียุค จะมีการเข่นฆ่า และแย่งชิงเกิดขึ้น จึงปรึกษาพระเจ้าอชาตศัตรูว่า ควรจะหาสถานที่ฝังพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดให้พ้นจากภัยสงคราม อันจะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึงร้อยปีข้างหน้า  พระเจ้าอชาติศัตรูก็เห็นดีด้วย  ได้อนุญาตให้มหากัสสปะ ทำอิทธฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากเมืองต่างๆ ซึ่งบัดนั้น ได้ถูกบรรจุอยู่ในพระเจดีย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มารวมกันอยู่ที่ กรุงราชคฤห์ โดยพระองค์ได้สั่งให้ขุดหลุดลึก 80 ศอก แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกาตุทั้งหมดลงในหีบทองแดงและหีบไม้จันทร์ฝังลงไปในหลุม แล้วก่อเจดีย์ครบไว้จนไม่สามารถจะมีสิ่งใดรุกล้ำเข้าไปได้

                                        กาลต่อมา 218 ปี สมัยพระเจ้าธรรมาโศกราช ทรงเสวยราชสมบัติ ณ กรุงปาตลีบุตร และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และรู้มาจากพระเถระผู้ใหญ่ว่า มีพระบรมสารีริกธาตุฝังอยู่ในใต้เมืองราชคฤห์ จึงมีรับสั่งให้อัญเชิญขึ้นมา แล้วสร้างพระเจดีย์มากถึง 8 หมื่น 4 พันองค์ แล้วทรงอธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเสด็จประดิษฐานในเจดีย์ทั้งหมดจนครบ นอกจากนี้ พระบรมสารีรริกธาตุยังแสดงปาฏิหาริย์เสด็จสู่ท้องนภากาศไปตามเมืองและทวีปต่างๆ จนประมาณมิได้

                                              นี่คือที่มาของพระบรมสารีริกธาตุหรืออิฐธาตุของพระพุทธเจ้าว่า ทำไมมีมากมายเหลือเกิน โดยเฉพาะประเทศในแถบทวีเอเชียของเรา  แต่สำหรับประเทศไทยของเรานั้น ถือได้ว่า เป็นเมืองพุทธ ที่มีคว่ามเจริญรุ่งเรืองมาก แต่น่าแปลกที่ ประเทศไทยของเรา กลับพบว่า พระบรมสารีริกธาตุมีน้อยเหลือเกิน  จะรู้แต่เพียงว่า ตามพระเจดีย์องค์สำคัญของเมืองไทยซึ่งมีอยู่ทุกภาค จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไม่เกินเจดีย์และ 20 องค์  ซึ่งมาในระยะหลังๆ พุทธศานิกชนที่เดินทางไปต่างประเทศ มักจะไปอัยเชิญเข้ามา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น