วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

อ.ศุภณัฏฐ์สร้างหัวครูเนื้อผงมวลสารอาถรรพ์ไม้ตะเคียนอายุร้อยกว่า



  
ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาหลายรุ่น โดยเริ่มต้นจัดสร้างพ่อแก่จิ๋วหัวครูขนาดห้อยคอบรรจุพระเกศาจำนวน 101 องค์ ซึ่งหมดลงภายใน 1 สัปดาห์ตอนนั้นราคาบูชาอยู่ที่ 900 บาทโดยไม่มีการสร้างเพิ่ม หลังจากนั้นก็จัดสร้างหน้าพระพิราพเนื้อผงลงสีตามกำลังวันแบบห้อยคอมีจำนวนการสร้างมากถึง 1,000 องค์ ใช้เวลาเปิดให้เช่าบูชานาน 1 ปีในที่สุดหมดลง ราคาบูชาตอนนั้นอยู่ที่ องค์ละ 350 บาท ต่อจากนั้น ข้าพเจ้าก็จัดสร้างหัวพ่อแก่นารอทเนื้อโลหะขนาดบูชาไซค์เล็ก มีจำนวนการสร้าง 99 เศียรบูชา 1,500 บาท ใช้เวลาในการเปิดให้บูชาเพียง 1 เดือนก็หมดลงแบบไม่เหลือแม้กระทั่งเศียรต้นแบบ ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน 2557 ข้าพเจ้าได้จัดสร้างหัวครูพระพิราพเนื้อชนวนโลหะขนาดบูชา จัดสร้างถึงสองครั้งสองรุ่นเป็นจำนวน 170 เศียรได้รับการตอบรับจากแฟนๆเฟชบุ๊คส์อย่างเหลือล้นทั้งๆ ที่ราคาเช่าบูชาสูงถึงเศียรละ 3,000 บาท 
นี่คือพลังศรัทธาและความสำเร็จในการจัดสร้างวัตถุมงคลแต่ละรุ่น จนกระทั่งมาถึงรุ่นนี้คือ หัวครูรุ่นมวลสารอาถรรพ์ ซึ่งแต่เดิม ข้าพเจ้าได้เริ่มสะสมมวลสารตั้งแต่ปี 50 ซึ่งเป็นปีที่องค์เทพจตุคามกำลังเฟื่องฟูแบบสุดขีด มวลสารสารพัดว่านร้อยแปดที่ยังเหลือจากการจัดสร้างองค์เทพจตุคาม จากยุคนั้น ข้าพเจ้ายังคงเก็บไว้โดยไม่คิดว่าจะมีโอกาสนำมาสร้างอะไรเป็นรูปธรรม การเก็บรวบรวมมวลสารแบบไม่มีเป้าหมาย ณ ตอนนั้นก็เป็นเรื่องแปลก เนื่องจากโถบรรจุมวลสารทุกชนิดจะอยู่ในห้องพระตลอดจนกระทั่งปี 2553 ข้าพเจ้าได้รับการมอบไม้ตะเคียนอายุร้อยกว่าปีที่จมอยู่ใต้คลองสามนาด ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทร์บุรี จากท่านเจ้าของที่สวนบริเวณนั้นโดยคลองนี้ตัดผ่านที่สวนผลไม้ของคุณสุรินทร์ ไม้ตะเคียนท่อนนี้เป็นส่วนหนึ่งของลำต้นใหญ่ที่ยังจมอยู่ในคลองอายุร้อยกว่าปีซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถงมขึ้นมาได้ทั้งต้นและข้าพเจ้าก็ต้องให้ช่างไม้ใช้เลื่อยเจียร์โดยทำพิธีบวงสรวงพลีขออนุญาติแม่ตะเคียนทองเพื่อให้ได้ผงไม้ตะเคียนมาผสมสร้างหัวครู ผงพุทธคุณสำคัญอีกหนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึง คือผงพุทธคุณวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อย้อนกลับเมื่อปี 2552 ข้าพเจ้าได้รับประทานผงพุทธคุณจากสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีหนังสือประทานผงพุทธคุณเป็นเครื่องยืนยันผ่านทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โดยมีพระเทพสารเวทีลงนามแทนสมเด็จพระสังฆราช ผงพุทธคุณที่ได้รับมาตอนนั้น เป็นจำนวนมากพอควรมีลักษณะสีน้ำตาลมีกลิ่นหอมเหมือนไม้แก่นจันทร์ไม่เหมือนผงพุทธคุณทั่วไป ข้าพเจ้าเคยแบ่งผสมในการสร้างพระพิราพไปครั้งหนึ่งแล้ว  และข้าพเจ้าได้อัญเชิญนำมาผสมในการสร้างหัวครูรุ่นมวลสารในครั้งนี้ด้วย  ผงพุทธคุณวัดบวรถือเป็นผงมงคลยิ่ง เด่นในทางเมตตา ส่วนผงไม้ตะเคียนและผงเถ้าอังคารถือเป็นผงมวลสารที่แรงและอาถรรพ์ นอกจากนี้ยังมีดินจากที่ตั้งศาลหลักเมือง 30 จังหวัด แต่เดิมจะให้ครบ 77 จังหวัด ซึ่งก็เป็นเรื่องอยาก จึงรวบรวมเท่าที่ได้และ ยังมีผงเถ้ายันต์จีน(ฮู้) ที่ข้าพเจ้าได้ทำพิธีพลีเผาเป็นเถ้าสีดำอีกเป็นจำนวนหลายร้อยผืน เพราะถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์รวมไปถึงผงว่านร้อยแปดสารพัดซึ่งไม่อาจจะยกมาบรรยายได้หมดเพราะได้รับมาจากลูกศิษย์สายะรรมทั้งหลายและกัลยามิตรสายบุญ ท โดยเฉพาะผงเถ้าอังคารพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ข้าพเจ้าได้ขอแบ่งจากคณะลูกศิษย์ที่เป็นลูกศิษย์สายพระกรรมฐานหลายรูป แต่เดิมที่รวบรวมผงเถ้าอังคารพ่อแม่ครูอาจารย์ ตั้งใจจะนำไปสร้างสักการะบูชาอื่นๆ แต่บังเอิญเมื่อมีความคิดจะสร้างหัวครูก็ตัดสินใจนำมาผสมสร้างหัวครูจนสำเร็จเป็นที่สุด หัวครูชุดแรกที่ถูกสร้างไปแล้วนั้น คือหัวครูพระเพชรฉลูกัณฑ์ กับครูหัวครูปู่ตาไฟ โดยเริ่มเปิดให้บูชาเมื่อวันจันทร์ที่ 6 ซึ่งผ่านมารวมถึงวันนี้ใช้เวลาเพียง 9 วันเท่านั้น หัวครูทั้งสองแบบ ก็ถูกเช่าบูชาไปมากถึง 70 เศียร แม้จะติดช่วงสงกรานต์ ก็ยังมีการสั่งจองกันเข้ามาเรื่อยๆโดยข้าพเจ้าตั้งเป้าไว้เพียง 99 เศียรเท่านั้นสำหรับหัวครูเพชรฉลูกัณฑ์กับปู่ตาไปแบบละ 50 เศียร หลังจากนั้นก็จะทยอยสร้างหัวครูรุ่นมวลสารแบบอื่นๆออกมาตามจำนวนใบสั่งจอง ก็ต้องถือว่า นี่เป็นครั้งแรกของวงการสร้างหัวครูพิมพ์โบราณที่สร้างจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆสิ่งสำคัญก็คือการปั้นด้วยมือทุกเศียรและน่าจะเป็นที่แรกและที่เดียวที่กล้าทำกล้าสร้างหัวครูด้วยแรงครูเต็มๆ ล่าสุดข้าพเจ้าได้ให้ครูช่างปั้นหัวครูปู่จ้าวสมิงพรายและหัวครูปู่นาคราช ซึ่งจะประกาศความศักดิ์สิทธิ์ในเร็วๆนี้ ที่สำคัญคือหัวครูนำฤกษ์ที่จะนำมาโชว์ถูกจองไปเรียบร้อยแล้วครับ โทรสอบถามที่ 082-3333341 อ.ศุภณัฏฐ์